������������������������������ ��������������������� ������������������������������������ ���.������������������������
หลวงพ่อสาย ชื่อเดิม นายสาย นามสกุล บุตรตะเคียน เกิดวันพฤหัสบดี เดือนกันยายน ขึ้น11ค่ำ ปีมะโรง พ.ศ.2483 ที่บ้านตะเคียนราม ต.ตะเคียนราม อ.ภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ บิดาชื่อ นายพรหม บุตรตะเคียน มารดา ชื่อนางแว๊ด บุตรตะเคียน มีพี่น้องร่วมท้องเดียวกัน 2 คน คนที่1.ชื่อนางสีดา บุตรตะเคียนราม คนที่2.หลวง
พ่อสาย ครอบครัวมีอาชีพทำไร่ทำนา ตามประสาชาวบ้านชนบททั่วไป
ชีวิตในเยาว์วัยของหลวงพ่อสาย
นิสัยท่านเป็นคนใจบุญมีความสุขุมลุ่มลึกและมีใจโอบอ้อมอารีชอบเอื้อเฟื้อ
เผื่อแผ่ต่อเพื่อนฝูงญาติพี่น้อง
ทั้งยังมีจิตใจเลื่อมใสในพระพุทธศาสนามาตั้งแต่เด็ก พออายุได้ 17 ปี ได้ขอบิดามารดาบรรพชาเป็นสามเณรซึ่งบิดามารดาไม่ขัดข้องท่านจึงได้บวชเป็นสามเณร ณ.วัดนามวิจิตรตะเคียนราม วัดในหมู่บ้านของท่าน หลังจากบวชเณรได้ระยะหนึ่งพอถึงอายุได้ 20 ปี หลวงพ่อสายท่านก็ได้อุปสมบทเป็นพระภิกษุในพระพุทธศาสนาได้รับฉายาว่า”ปาโมกโข”
เมื่ออุปสมบทเป็นพระภิกษุโดยสมบูรณ์แล้ว
หลวงพ่อสายท่านได้ศึกษาสวดมนต์และสวดปาติโมกข์ซึ่งใช้เวลาหนึ่งพรรษาเท่า
นั้น
หลังจากนั้นหลวงพ่อสายท่านได้เดินธุดงค์ปลงสังขารลัดเลาะไปตามป่าดงพงพี
ข้ามเขาลงห้วยในดินแดนประเทศกัมพูชาทำให้ท่านได้พบครูบาอาจารย์ที่เก่งๆหลาย
รูป ท่านได้ศึกษาพระเวทย์ อาถรรพ์ จากหลวงพ่อแย้ม
ในวิชาเรื่องการปลุกเสกด้านเมตตามหาเสน่ห์ ค้าขาย พระอาจารย์พรหม
เรียนวิชาการทำน้ำมนต์ ถอนคุณถอนของ หลวงพ่อกุจ
สอนให้หลวงพ่อสายรู้จักกำหนดอารมณ์การปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐานทั้งยังสอน
เรียนรู้ตำแหน่งแห่งธาตุทั้ง4เพื่อ
นำไปใช้ในการสร้างวัตถุมงคลของขลังให้ได้ผล
ครูบาอาจารย์เหล่านี้ก็ได้ถ่ายทอดวิชาอาคมที่ตนมีอยู่ให้หลวงพ่อสายจนหมด
สิ้นโดยเฉพาะฤาษีที่บำเพ็ตพรตอยู่กลางป่าดงดิบได้ถ่ายทอดวิชาขั้นสุดยอดให้
หลวงพ่อสายเพื่อให้นำไปช่วยเหลือศิษย์ต่อไป
หลวงพ่อสายได้รับคำแนะนำจากฤาษีว่าให้ออกธุดงค์เข้าป่าหาวิเวกเพื่อบำเพ็ญสม
ณธรรมต่อไป
หลังจากกราบลาฤาษีก็มุ่งหน้าไปยังป่าโดยมิได้หวั่นแกรงภยันตรายต่างๆใน
ประเทศกัมพูชามีป่าเขามากมายล้วนแต่เป็นของอาถรรพณ์ลี้ลับมากมายที่แฝงไป
ด้วยความน่าสะพึงกลัวทั้งจากภูติผีปีศาจที่ตาเรามองไม่เห็น
และภัยจากคนในระหว่างเดินธุดงค์มีทั้งผู้แก่กล้าในวิชาอาคมทางด้านคุณไสย
ต่างๆพอเขาเห็นพระธุดงค์มักจะชอบลองของลองวิชาอยู่เสมอหลวงพ่อสายท่านก็
สามารถเอาตัวรอดมาได้โดยตลอด
ค่ำไหนก็ปักกรดบำเพ็ญสมณธรรมท่านใช้ชีวิตอยู่ในป่าเป็นเขตอาศัยบิณฑบาตจาก
ชาวป่า ชาวเขา ท่านได้พบฤาษี ชีปะขาว
และพระธุดงค์ได้แลกเปลี่ยนศึกษาเวทมนต์โองการณ์ต่างๆวิชาเสกอิ้นทอง
ม้าเสพนาง ช้างผสมโขลง แม่เป๋อ วิชาตะกั่วเผาะ วิชาเรียกจิตภูติ
วิชาเสกกุมารทอง วิชาเสกนางเหมา วิชาเสกขุนแผนมหาเสน่ห์ วิชาเสกเบี้ยแก้
หมากทุย และอีกหลายๆวิชา
เมื่อหลวงพ่อสายท่านได้เรียนรู้พระเวทย์จากครูบาอาจารย์ของท่านจนหมดสิ้น
ท่านก็กราบลาและได้เดินธุดงค์ต่อไปมีจุดหมายปลายทางเพื่อกลับบ้านตะเคียนราม
และได้มาจำวัดนามวิจิตรตะเคียนราม อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษสืบมาจนถึงปัจจุบันนี้